ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเกี่ยวกับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งศูนย์วิกฤติ หรือไครซีส แมนเนจเม้นท์ โดยมีผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนร่วมกันทำงานอย่างถาวร จากเดิมจะมีเฉพาะช่วงวิกฤติเท่านั้น โดยให้นายสุรพล เศวตเศรณีย์ รองผู้ว่าการฝ่ายโฆษณาและเผยแพร่ ททท.เป็นประธานศูนย์ ซึ่งจะตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ 1 ก.พ.นี้ และในภาวะปกติจะใช้ชื่อมาร์เก็ตติ้ง อินเทอร์ลิเจ้นท์ เซ็นเตอร์ เพื่อประสานงานและพัฒนาด้านการตลาดท่องเที่ยว สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยว มีการยกเลิกเดินทางน้อยมาก ขณะที่เรือสำราญจากสหรัฐฯที่ขนนักท่องเที่ยว 2,000 คน ยังมาปกติ กลางเดือน ม.ค.นี้ ด้าน ซิน-เวสเตอร์ สตาโลน ผู้กำกับและดาราชื่อดังของฮอลลีวูด ยังคงจะเดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรมโบ้ 4 ในเมืองไทย ปลายเดือนนี้
ส่วนมาตรการที่เอกชนอยากให้รัฐบาลดำเนินการคือ การสร้างความปลอดภัยให้มากที่สุด เพราะหากปล่อยให้เกิดเหตุระเบิดมาอีกยากที่จะรับมือได้ เพราะในครั้งนี้เราโชคดีตรงที่มีข่าวอื่นที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ เป็นข่าวใหญ่กว่าข่าวของเรา ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนยังเสนอให้จับพวกโรคจิตหรือชอบข่มขู่วางระเบิดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาลงโทษแล้วเผยแพร่ ให้ทราบทั่วถึงกัน นอกจากนั้น สมาคมโรงแรมไทยยังเสนอว่าจะจัดหาถังขยะใสมาใช้
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า แต่ละโรงแรมได้ประสานงานเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้น โดยล่าสุด ให้มีการช่วยสังเกตดูคนแปลกหน้าและดูแลถังขยะ ส่วนการจองห้องพักยังไม่มีนักท่องเที่ยวยกเลิก และหากไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบการจองห้องพักล่วงหน้า ส่วนอัตราการเข้าพักโดยรวมทั่วประเทศในปี 2549 อยู่ที่ 75.80% สูงกว่าปี 2548 ประมาณ 0.6%
นายอภิชาต สังฆอารีย์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมาไทยเพียง 5% ส่วนใหญ่จากมาเลเซียและสิงคโปร์ เนื่องจากในต่างประเทศไม่ทราบข่าวระเบิดในไทย เพราะในช่วงเดียวกันถูกข่าวอื่นกลบ เช่น ข่าวการประหารชีวิตซัดดัม เรือล่มในอินโดนีเซีย รัฐพิธีศพของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจอรัลด์ ฟอร์ด อีกทั้งขณะนี้ยังเป็นช่วงวันหยุดยาวของหลายประเทศ จึงยังไม่มีการแจ้งยกเลิกการเดินทางเข้ามา คงต้อรออีก 2 สัปดาห์จะชัดเจนขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 4 ม.ค.ว่า ดัชนีทรุดตัวลงแรงในการซื้อขายภาคบ่าย หลังมีข่าวลือว่าจะมีการปฏิวัติซ้อนแพร่สะพัดไปในห้องค้าหุ้น ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนก พากันเทขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง กดดัชนีลงมาปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดของวัน ที่ 648.22 จุด ลดลง 11.03 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 12,909 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 622.31 ล้านบาท, นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 314.99 ล้านบาท ขณะที่รายย่อย ซื้อสุทธิ 937.30 ล้านบาท
ผู้บริหารระดับสูงในวงการโบรกเกอร์กล่าวว่า เหตุที่หุ้นไทยยังปรับตัวลงแรง เพราะอารมณ์ของนักลงทุนและตลาดหุ้นไทยขณะนี้อ่อนไหวและเปราะบางมาก โดยนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์บ้านเมือง รวมทั้งเสถียรภาพของรัฐบาล เมื่อมีกระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนแพร่สะพัดเข้ามาในห้องค้า.
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ