นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. สผ.ได้รายงานให้ทราบว่า จากการสำรวจหลุมก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติม ในพื้นที่ A04 แหล่งนางนวล บริเวณอ่าวไทยแถบ จ.ชุมพร พบปริมาณน้ำมันดิบที่มีอัตราการไหล 9,000 บาร์เรลต่อวัน โดย ปตท.สผ.มีแผนที่จะผลิตเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้ ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้ทดสอบปริมาณน้ำมันดิบในหลุมดังกล่าวเมื่อ 5 ก.ค. 49 มีอัตราไหลเป็นที่น่าพอใจ ในอดีตแหล่งนี้ผลิตน้ำมันดิบได้ 15,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งในขณะนั้นสิทธิสัมปทานเป็นของบริษัทไทยเชลล์ จำกัด แต่ต่อมาได้ขายต่อให้ ปตท.สผ. และสามารถผลิตได้เพียง 800 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากมีปัญหาด้านเทคนิค ทำให้ ปริมาณน้ำมันดิบเริ่มลดลงมีน้ำรั่วซึม แต่เมื่อมีการสำรวจพบเพิ่มเติมก็ถือเป็นเรื่องที่ดีของประเทศไทย
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอยู่ระหว่างการปรับปรุงกฎหมายใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เอกชนและเอื้อต่อการลงทุน เช่น เดิมอำนาจการอนุมัติอยู่ที่ รมว.พลังงานแต่ต่อไปจะโอนอำนาจให้คณะกรรมการปิโตรเลียม
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฉบับใหม่จะสร้างแรงจูงใจในการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมที่ไม่คุ้มทุน อาจมีการลดค่าภาคหลวงปิโตรเลียมให้เอกชน โดยยึดบริเวณการสำรวจเป็นหลัก จะพิจารณาให้สูงสุด 90% ของอัตราจัดเก็บจากปัจจุบันที่ผู้ได้รับสัมปทานก่อนปี 2532 จะคิดค่าภาคหลวง 12.5% ของมูลค่าการผลิตและผู้ที่ได้รับอนุมัติหลังปี 2532 จะคิดค่าภาคหลวงตามขั้นบันไดอยู่ที่ 5-15% ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิต เป็นต้น
และล่าสุดกระทรวงพลังงานได้อนุมัติสัมปทานเพื่อสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับพื้นที่บนบกและทะเลในอ่าวไทยเพิ่มอีก 4 แปลง ให้เอกชนยื่นขอสัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมครั้งที่ 19 แปลงสำรวจในอ่าวไทยหมายเลข G2/48 ให้บริษัทเพิร์ล ออย ออฟชอร์ และแปลงสำรวจหมายเลข G 3/48 ให้บริษัท อร์ธเทิร์น กัลฟ์ ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ