นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังประชุมแก้ไขปัญหาราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มตกต่ำ ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้ค้าสุกรชำแหละไทย ตัวแทนโรงฆ่าชำแหละสุกร และกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร ว่า ที่ประชุมมีมติกำหนดราคาขายหมูหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละ 32-33 บาท หากผู้ประกอบการรายใดจงใจกดราคารับซื้อหมูหน้าฟาร์มต่ำกว่าระดับนี้ หรือทำตลาดปันป่วน จะมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากการตรวจสอบต้นทุนหมูหน้าฟาร์มขณะนี้กิโลกรัมละ 40-42 บาท แต่ถูกกดราคาเหลือ 29-32 บาท จึงต้องกำหนดราคาขั้นต่ำเพื่อช่วยเหลือ ไม่ให้กดราคาไปมากกว่านี้
นายศิริพลกล่าวว่า ยังได้สั่งให้สมาคมฯไปจัดทำแผนและค่าใช้จ่าย เพื่อลดปริมาณหมู เช่น ตัดตอนลูกหมูทำหมูหัน และแปรรูปหมูเป็นหมูซีก เพื่อเก็บไว้ในห้องเย็น ซึ่งต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงในเดือน ก.พ.นี้ จะรณรงค์ให้มีการบริโภคเนื้อหมูมากขึ้น
ทางผู้เลี้ยงจะต้องดูแลแม่พันธุ์และลูกหมูไม่ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น และนำหมูย่างขนาด 40 กิโลกรัม ไปจำหน่ายในสิงคโปร์ เพราะต้องการหมูย่างจากไทยจำนวนมาก รวมทั้งการทำโครงการหมู 2 กิโลกรัม 100 บาท ซึ่งจะใช้ ชื่อโครงการว่า หมูพบผู้บริโภค จำหน่ายทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นให้บริโภคเนื้อหมูมากขึ้น ยอมรับว่าปัจจุบันปัญหาราคาหมูตกต่ำเพราะปริมาณหมูมีมากเกินปกติ และถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน นอกจากนี้ จะเข้มงวดการตรวจสอบการนำเข้าเครื่องในสัตว์จากต่างประเทศ เพราะหากนำเข้าในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนมาก จะทำให้รัฐมีรายได้จากการเก็บภาษีลดลง และยังทำให้เกิดภาวการณ์ดัมพ์ตลาดในประเทศอีก.
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ