นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมปี 2549 และแนวโน้มปี 2550 ว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ลดลงและอาจต่ำกว่าระดับ 100 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ยังไม่ดีนักต่อเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ โดยปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลให้มีการเปลี่ยนแปลงจะเกิดจาก 4 เรื่องหลักๆ ได้แก่ ปัญหาการเมือง ราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะลงทุนในปี 50
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปีนี้ ภาคเอกชนยังมีความคาดหวังว่าแนวโน้มดัชนีอุตสาหกรรมจะดีขึ้น หากสถานการณ์ด้านต่างๆคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรือย่างน้อยที่สุดอยู่ในระดับเดิม จากการเข้ามาดูแลของภาครัฐ โดยเฉพาะกรณีค่าเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่สูงกว่า 36 บาท/เหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศมาตรการลดผลกระทบ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงจะช่วยให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่ามากเหมือนปี 49 หากแก้ปัญหาตรงนี้ได้จะทำให้ยอดการส่งออกสินค้าปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้มีรายได้กลับเข้ามาเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดในประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันหากรัฐบาลมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในปีนี้ จะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการดีขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆมากนัก
นายอดิศักดิ์กล่าวว่า สำหรับภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมปี 2549 ปรากฏว่าใกล้เคียงกับปี 2548 คือเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 100 เป็นส่วนใหญ่ โดยเมื่อเดือน ธ.ค. 2549 ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 85.9 ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ทำให้เกิดความเป็นห่วง เมื่อพิจารณาจากยอดคำสั่งซื้อที่ปรับลดลงอยู่ที่ระดับ 87.3 ส่วนใหญ่เป็นคำสั่งซื้อจากผู้แทนจำหน่ายในประเทศ จึงส่งผลให้ดัชนียอดขายโดยรวมก็ลดลงอยู่ที่ระดับ 88 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เพราะผู้บริโภคลดการบริโภคสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องใช้กลยุทธ์ลดแลกแจกแถมเพื่อดึงลูกค้า ทำให้มียอดกำไรลดลงตามไปด้วยในปีที่ผ่านมา
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ