นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้ จะหารือกับ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบการจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายที่ได้ทำข้อตกลงระหว่างกัน สำหรับการจ่ายค่าเชื่อมโยงโครงข่ายแบบอินเตอร์คอนเน็กชั่นชาร์จ (ไอซี) โดยจะต้องตรวจสอบว่าเมื่อคิดค่าไอซีระหว่างกันแล้ว เอกชนได้นำภาระค่าใช้จ่ายไอซีมาผลักให้กับผู้บริโภค รวมถึงมีการจ่ายเงินค่าไอซีจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ
ทั้งนี้ ได้มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการใช้ไอซีไม่มีใครตรวจสอบได้ว่ามีปริมาณการโทร.เข้า-โทร.ออก ระหว่างผู้ประกอบการแต่ละรายเพื่อจัดเก็บค่าไอซีเป็นจำนวนเท่าใด และมีการคำนวณต้นทุนที่แท้จริงและมีการจ่ายเงินกันจริงหรือไม่ ผมเคยเสนอให้ตั้งบริษัทไอซีทีไทยแลนด์ จำกัด เพื่อเป็นคนกลางทำหน้าที่เคลียริ่งเฮ้าส์เรื่องปริมาณการใช้โครงข่าย การคิดค่าใช้จ่ายไอซี รวมถึงการคำนวณต้นทุนค่าไอซีของเอกชนว่าอ้างอิงจากปัจจัยใด ขณะนี้คงต้องรอคณะกรรมการ บมจ.ทีโอทีชุดใหม่มาพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเซ็นสัญญากับบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทคและบริษัททรูมูฟ จำกัด และเริ่มใช้ไอซีตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยคิดอัตราค่าไอซีนาทีละ 1 บาทบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 0.7 บาท
ด้าน พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธาน กทช. กล่าวว่า เอกชนจะต้องรายงานรายละเอียดของการใช้ค่าไอซีรวมถึงอัตราค่าไอซีให้ กทช. ได้รับทราบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานให้ที่ประชุมบอร์ด กทช.รับทราบแต่อย่างใด โดยคาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างพิจารณาของสำนักงาน กทช. เพื่อเสนอให้บอร์ดรับทราบ ทั้งนี้ กทช.มีหน้าที่ในการออกประกาศ ให้มีการใช้ค่าไอซีตามกฎหมาย ส่วนอัตราค่าไอซีและปริมาณการโทร.ของผู้ประกอบการแต่ละรายนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการจะไปดำเนินการเอง
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงไอซีทีว่า กระทรวงไอซีทีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่เพราะโครงสร้างการทำงานที่ไม่ ชัดเจน ทำให้การทำงานในช่วงที่ผ่านมาล่าช้า อย่าง ไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีการยุบกระทรวงไอซีทีอย่างที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน และในฐานะที่เคยเป็นปลัดไอซีทีคนแรก เห็นว่าการทำงานของกระทรวงไอซีทีมีผลงานที่ชัดเจน จำเป็นต้องผลักดันให้กระทรวงไอซีทีมีหน่วยงานเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ จะเสนอให้กระทรวงไอซีทีจัดตั้งกรมใหม่ 3 กรม ประกอบด้วย สำนักส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อดำเนินงานเรื่อง อี-กัฟเวอร์เม้นท์ สำนักงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกรมสำรวจและทำแผนที่พลเรือน
นายสิทธิชัยกล่าวว่า การทำงานในกระทรวงไอซีทีตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงไอซีทีถือเป็นกระดูกสันหลังในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ คือรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (อี-กัฟเวอร์เม้นท์) หากปล่อยไว้จะทำให้ไทยล้าหลังจากประเทศอื่นๆ.
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ