ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์

แก๊สโซฮอล์ เตรียมปรับลดลง 27-50 สตางค์/ลิตร หลังกบง.มีมติออกประกาศสูตรราคาเอทานอล-ไบโอดีเซลใหม่อ้างอิงราคาตลาดโลก ส่งผลราคาเอทานอลลดลง 6 บาท/ลิตร

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :   ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ว่าวันนี้ (5 ก.พ) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดราคาเอทานอลและไบโอดีเซลใหม่ โดยให้อ้างอิงตลาดโลกและใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยดูแล ทำให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ช่วยเพิ่มค่าการตลาดน้ำมันให้ผู้ขายพลังงานทดแทนเท่ากับเบนซินและดีเซล แต่ราคาที่ถึงผู้บริโภคในส่วนต่างของแก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 95 จะอยู่ที่1.50 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 แตกต่างเบนซิน 91ในอัตรา 1-1.50 บาท/ลิตร และไบโอดีเซลแตกต่าง 1 บาท ในอนาคตอาจจะเพิ่มเป็น 1.50 บาท/ลิตร

  ทั้งนี้ สูตรของราคาเอทานอลใหม่จะอ้างอิงราคาเอทานอลจากตลาดบราซิล คิดราคาเฉลี่ยจากไตรมาสก่อนมากำหนดราคาเฉลี่ยสำหรับไตรมาสถัดไป รวมไปถึงค่าขนส่งและค่าประกันภัย จากหลักเกณฑ์นี้จะทำให้ราคาซื้อขายเอทานอลไตรมาส1ของปี 2550 ลดลงจาก 25.30 บาท/ลิตร เหลือเพียง 19.33 บาท/ลิตร จากการลดราคาดังกล่าว คาดว่าเมื่อผู้ค้าน้ำมันใช้สต็อกเอทานอลเดิมหมดลงไป ราคาแก๊สโซฮอล์ 95 จะลดลงได้ 27.8 สตางค์/ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 91 จะลดลงได้ 53 สตางค์/ลิตร

ส่วนสูตรราคาไบโอดีเซลใหม่ ประเภท บี 100 จะอิงราคาเอทานอลและราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ประกาศโดยกรมการค้าภายใน โดยราคาขายน้ำมันปาล์มดิบกำหนดไม่ให้สูงกว่าตลาดมาเลเซีย บวก 1 บาท/กิโลกรัม ซึ่งทำให้ราคาไบโอดีเซลขยับขึ้นอีกประมาณ 3 บาท/กิโลกรัม หรือเป็น 24.54 บาท/ลิตร โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการลดเงินกองทุนฯ จาก 62.84 เหลือ 54.92 สตางค์/ลิตร

  “การเพิ่มค่าการตลาดพลังงานทดแทนจะจูงใจให้เกิดปั๊มขายน้ำมันประเภทนี้มากขึ้น ในขณะที่ราคาไบโอดีเซลที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดการผลิตที่ได้มาตรฐานและเป็นผลดีต่อเกษตรกร ส่วนราคาเอทานอลที่แม้จะลดลง แต่เป็นราคาตลาดโลกที่ในขณะนี้ประเทศไทยเป็นผู้นำการผลิตในเอเชียและจะเป็นฐานการส่งออกที่สำคัญในอนาคต แม้ราคาลดลงแต่ก็มีการคำนวณว่าผลตอบแทนการลงทุน (ไออาร์อาร์) ก็ยังสูงถึง15% ในอนาคตหากมีปัญหาเอทานอลตลาดโลกแพงผิดปกติ สามารถประกาศราคากลางได้ และอาจคุมการส่งออกด้วยการเก็บเงินเข้ากองทุน สำหรับการส่งออกเหมือนกับก๊าซหุงต้มในปัจจุบัน”ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว