ปีที่ 58 ฉบับที่ 17916 วันศุกร์ ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2550
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ม.ค.50 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,245 คนทั่วประเทศ ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง และต่ำสุดในรอบ 5 เดือนทุกรายการ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 79.9 ลดจาก 82.4 เดือน ธ.ค. 49 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 74.2 ลดจาก 76.5 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 75.4 ลดจาก 77.4 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 90.2 ลดลง 93.2 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปัจจุบันอยู่ 77.7 ลดจาก 79.1 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 78.0 ลดจาก 80.9
ทั้งนี้ เพราะผลกระทบทางจิตวิทยา จากเหตุการณ์ ระเบิดในกรุงเทพฯ, คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 2542 การออกมาตรการสำรองเงินตราต่างประเทศ 30% ของเงินทุนนำเข้า ผู้บริโภควิตกปัญหาค่าครองชีพสูง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐไม่มีความชัดเจน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง และต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เป็นจุดที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงเดือน ก.พ.หรือไม่ เพราะคนจะเริ่มกรองสถานการณ์ดูว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จะเป็นตัวชี้ชะตาทิศทางความเชื่อมั่นของคนไทยว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลงอีกครั้งนับจากการปฏิรูปทางการเมือง หากยังถดถอยอีกจะทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นเดือน ก.พ. ต่ำสุดอีกครั้งในรอบ 5 ปี
ส่วนผลสำรวจการใช้จ่ายของผู้บริโภค ระบุว่ายังไม่เหมาะสมต่อการซื้อรถยนต์ บ้าน ท่องเที่ยว และการลงทุนเพิ่มในธุรกิจ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับผลสำรวจภาวการณ์ทางสังคม ที่คนไทยระบุว่ามีความสุขในการดำเนินชีวิตลดลง ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน พร้อมกับแสดงความกังวลต่อภาวะค่าครองชีพ ปัญหายาเสพติด ปัญหาคอรัปชันและสถานการณ์การเมือง ที่น่าจับตาคือคนไทยเริ่มกังวลต่อเสถียรภาพการเมืองอีกครั้ง หากรัฐยังไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมาได้ จะส่งผลต่อการฟื้นความเชื่อมั่น และเป้าหมายขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเดิมน่าจะฟื้นตัวไตรมาส 3 ปี 50 เลื่อนไปไตรมาส 4 ปี 50
อย่างไรก็ตาม มาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลควรทำคือ เบิกจ่ายงบประมาณปกติ และงบลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75-1.0% ภายใน ก.พ.นี้ จะทำให้เศรษฐกิจไตรมาสแรกขยายตัวที่ 3.5-4.0% อัตราแลกเปลี่ยนควรอยู่ที่ 35-36 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และเงินเฟ้อไม่เกิน 2.5% ทั้งนี้ศูนย์ยังคงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจขยายตัวทั้งปี 50 ไว้ที่ 4.5% และเงินเฟ้อ 2.0-2.5%.
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ