ปีที่ 58 ฉบับที่ 17923 วันศุกร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ ได้เชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง : หัวใจแห่งการสร้างชาติ ซึ่งประจวบเหมาะกับที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้นายสมคิดเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพื่อให้การสร้างความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจกับนานาประเทศ และนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวนโยบายเศรษฐกิจไทย ซึ่งยึดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปรากฏว่าสาระสำคัญที่นายสมคิดกล่าวปาฐกถาได้สะท้อนแนวทางการทำงานภายใต้คณะกรรมการฯที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งในทันที
โดยนายสมคิดกล่าวว่า ปรัชญาสำคัญมากที่จะช่วยประเทศไทยพ้นจากจุดพลิกผันคือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งน่าเสียดายที่วันนี้มีการตีความคลาดเคลื่อนปรากฏในสื่อต่างประเทศ จึงจะเร่งสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศและสื่อต่างประเทศให้ ถูกต้อง ตนในฐานะข้าราชบริพารและในฐานะคนไทย ที่เคยจับงานด้านเศรษฐกิจของประเทศมา 6 ปี แม้ ไม่ใช่พหูสูต แต่เป็นผู้พยายามศึกษาติดตาม เมื่อรู้ว่าการตีความของบางคนเข้าใจผิด คลาดเคลื่อน จึงขอใช้ตนเองเป็นสื่อทำความเข้าใจ แก้ไขความเข้าใจผิดและเชื่อว่าสังคมเข้าใจแล้วจะสนับสนุนและยอมรับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นปรัชญาที่ยิ่งใหญ่และเป็นหัวใจของชาวพุทธ
ฝรั่งบอกว่าเป็นแนวคิดนามธรรมสูง แต่ในฐานะคนทำงาน ตนว่าเป็นรูปธรรมที่สุด โจทย์อยู่ที่จะสร้างสังคมพอเพียงได้อย่างไร จะสร้างความพอเพียงให้ประเทศได้อย่างไร และจะสร้างความสมดุลอย่างไรระหว่างชนบทและเมือง ในประเทศและต่างประเทศ และระหว่างความเจริญทางวัตถุและรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจะทำอย่างไรให้เป็นสังคมคุณธรรมแท้จริง
นายสมคิดกล่าวต่อไปว่า มีความเข้าใจผิดจากต่างประเทศบอกว่าเราจะถอยหลัง ปิดประเทศ ต่อต้านกระแสโลกาภิวัตน์ ผิดทั้งสิ้น เมื่อเจาะแก่นแท้ของเศรษฐกิจพอเพียง ประการแรก ต้องบริหารประเทศให้มีสติ รอบคอบ รับผิดชอบ ไม่ใช่เอาประเทศเสี่ยงภัยสุดกู่ ไม่ใช่ก้าวถอยหลัง ต้องพัฒนา ไปข้างหน้า และไม่ใช่แค่ใช้การเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) กำหนด เมื่อเทียบกับตอนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจใหม่ๆ การเติบโตของเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญเพราะเศรษฐกิจอยู่ก้นเหว ตอนที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เข้ามาจะดูว่าจีดีพีสูงพอไหม หากไม่พอจะลดระดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ตอนนั้นการเติบโตของเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นจะถูกเหยียบจมดิน แต่เมื่อผ่านขั้นนั้นมา คุณภาพของจีดีพีก็เป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าการขยายตัว 5% จะดี แต่ถ้าไม่กระจายและกระจุก ก็จะเกิดความไม่สมดุล หากรากหญ้ายังอ่อนแอ ปล่อยนานไปก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น คุณภาพของการเติบโตทางเศรษฐกิจยังจำเป็น
ในความเข้าใจของตน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต้องไปทีละขั้น ทีละตอน รู้จักนำความรู้ วิทยาการมาต่อยอด และประเทศไทยต้องเดินไปข้างหน้า ต้องการระบบเปิด ไม่ใช่ระบบปิด และต้องพึ่งพากันและกัน เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้บอกให้เราปิดประเทศ แต่ต้องชาญฉลาดในการเปิดประเทศ จะทำอย่างไรก่อนพึ่งพาโลก
นายสมคิดกล่าวว่า ในความเข้าใจของตน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หัวใจอยู่ที่คำว่า พอเพียง สื่อความหมายของความพอดี พอประมาณ โดยยึดทางสายกลางเป็นหลักปฏิบัติ และปรัชญาดังกล่าวประยุกต์ใช้ได้กับทุกมิติ ทุกสถานการณ์ เมื่อนำไปใช้กับครัวเรือน คือ ทำให้คนไทยขยัน หมั่นเพียร สร้างรายได้ให้พอเพียงกับครอบครัว ซื่อสัตย์และไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ใช่ทุ่มเทหารายได้จนไม่สนใจครอบครัว ต้องรู้จักวางแผนชีวิต อยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อเกินไป แต่ไม่ใช่ตระหนี่ถี่เหนียว รู้จัก ละเลิกอบายมุข ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น รู้จักออมเพื่อลูกหลาน จากนั้นก็ไปสู่บันไดขั้นที่ 2 คือ การช่วย เหลือเกื้อกูล วางแผนพัฒนาชุมชน สร้างสวัสดิการชุมชน ถ้ามีสินค้ามากพอก็เอาไปจำหน่ายในละแวกใกล้เคียงก่อนไปสู่ภายนอก
ทั้งนี้ ในส่วนตัวเชื่อว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่ ปรัชญาที่จำกัดเฉพาะเศรษฐกิจครัวเรือนหรือการเกษตร แต่เกี่ยวข้องกับองค์กรธุรกิจในการใช้หลักบริหารรอบคอบ โปร่งใส ขยายกิจการอย่างมีขั้นตอน และรู้เท่าทันโลกาภิวัตน์ มีคุณธรรม จริยธรรม อีกทั้งมีมิติในการบริหารจัดการบุคลากร โดยบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันจะต้องร่วมมือกันสร้างคุณภาพและความเข้มแข็งขึ้นมา ซึ่งตลอด 6 ปีเต็มที่อยู่ในตำแหน่งได้พูดเสมอว่าอยากให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดในภาคอุตสาหกรรม เพื่อผลิตสินค้าคุณภาพสูงสู้ตลาดโลก และสูงอีกระดับและสำคัญมากคือ รัฐบาลที่จะเป็นผู้กำหนดนโยบายและบริหารประเทศด้วยการใช้สติ มีความรอบคอบ ระมัดระวังและใช้ปัญญาในการสร้างเศรษฐกิจและสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายสมคิดได้เรียกคณะกรรมการฯชุดดังกล่าวประชุมในทันทีวันที่ 16 ก.พ. ณ ชั้น 33 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เวลา 14.00-16.00 น.
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ