ผู้สื่อข่าวรายงานจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) ว่า สป.ได้เตรียมเสนอแนะความเห็นการบริหารจัดการสลากพิเศษแบบเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พิจารณา เพื่อสร้างความเป็นธรรม และความโปร่งใส ในการนำรายได้มาช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนให้มีชีวิตที่ดี เช่น เกษตรกร, ผู้พิการ, กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยภาครัฐไม่ควรทำธุรกิจหวยบนดินเอง แต่ให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการภายใต้กฎเกณฑ์ของรัฐ เพราะหากรัฐบาลเป็นเจ้ามือเอง จะทำให้กลุ่มเยาวชนเข้าใจผิดว่าอบายมุขและการพนันเป็นสิ่งที่ดี จนเกิดพฤติกรรมเลียนแบบตามมาภายหลัง
สำหรับรายได้จากการจำหน่ายหวยรัฐบาลไม่ควรจัดสรรให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยตรง โดยเฉพาะทุนการศึกษา แต่รัฐควรนำรายได้เข้าสู่งบประมาณแผ่นดิน แล้วจึงจัดสรรงบประมาณไปสู่ภาคสังคมและกลุ่มคนยากจนในสัดส่วนที่มากกว่าเดิม โดย ก่อนหน้า สป.ได้เสนอแนวทางดำเนินนโยบายหวยบนดินให้รัฐบาลพิจารณาแล้ว 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกเป็นการเสนอให้รัฐบาลชุดเก่า ซึ่งยังไม่ได้รับผลตอบแทนที่แท้จริง และมีการเสนอครั้งที่ 3 ในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี จึงได้มีการทำข้อเสนอเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยลดปัญหาคนไทยติดเล่นหวยได้
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมยังเปิดเผยผลสำรวจพบว่าครัวเรือนที่เล่นหวยซื้อหวยบนดิน เฉลี่ยคนละ 502 บาทต่อเดือน ขณะที่หวยใต้ดินเฉลี่ยคนละ 1,347 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ คนอีสานเล่นหวยมากที่สุด รองลงมาคือคนกรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยมีรายได้เดือนละ 5,000-10,000 บาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าความนิยมซื้อหวยของกลุ่มเด็กและเยาวชนมีเพิ่มขึ้น จากข้อมูลพบว่าคนกลุ่มนี้ซื้อหวยรัฐบาลประมาณ 1.5 ล้านคน คิดเป็นเงิน 3,600 ล้านบาทต่อปี หรือเฉลี่ยคนละ 200 บาทต่อเดือน เมื่อแบ่งระดับการศึกษาพบว่าเด็กประถมเล่นหวย 6% มัธยมศึกษาตอนต้น 12% มัธยมศึกษาตอนปลาย 17% อาชีวศึกษา 25% และระดับอุดมศึกษา 27%.
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ