นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 ก.พ.) ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท. เพื่อประเมินผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากเกิดเหตุระเบิดครั้งล่าสุด ก่อนรวบรวมข้อเสนอของเอกชนเสนอต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาก่อนที่จะย้ายการลงทุนออกนอกพื้นที่ เพราะจะเกิดการเลิกจ้างงาน และปลดแรงงานออก จนทำให้กำลังซื้อของคนในพื้นที่หดตัวอย่างน่ากลัว ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยา ซึ่งหอการค้าไทยจะประชุมเพื่อประเมินผลกระทบวันนี้ (20 ก.พ.) สำหรับแนวทางที่รัฐบาลพัฒนาเขตพื้นที่ภาคใต้เป็นเขตเศรษฐกิจ ถือเป็นขวัญกำลังใจกระตุ้นให้ภาคธุรกิจเข้าไปลงทุนและลดปัญหาได้ระดับหนึ่ง
ส่วนนายสมเกียรติ อนุราษฎร์ ประธานสภาธุรกิจชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความวิตกกังวลกับนักลงทุนในพื้นที่มาก เพราะเหตุการณ์เลวร้ายลง รัฐต้องปรับนโยบายดูแลความมั่นคงใหม่ จากที่ตั้งรับเป็นเชิงรุกแทน เพื่อแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เอกชนในพื้นที่เห็นว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นนโยบายที่ดีในการดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในจังหวัดชายแดนใต้ แต่ปัญหาคือ 3 จังหวัดยังไร้เสถียรภาพ จึงยังไม่มีการลงทุนใหม่ๆ และอาจทำให้การลงทุนเก่าย้ายออกมากขึ้น
ขณะที่นายพจน์ ไพบูลย์เกษมสุทธิ์ ประธาน หอการค้าจังหวัดยะลา กล่าวว่า หอการค้ายะลาได้ยื่นหนังสือถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อขอให้รัฐทบทวนนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 จังหวัด ที่เพิ่ม 4 อำเภอของสงขลาเข้าไปด้วย เพราะทำให้นโยบายส่งเสริมลงทุนใหม่ผิดเป้าหมาย และยิ่งทำให้ 3 จังหวัดที่มีปัญหาไม่ได้รับความสนใจ พร้อมกันนั้น จะทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือเรื่องนี้ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน (กกร.) เดือน มี.ค.นี้
ด้านนายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คงประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมได้ยาก แต่กระทบด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะเอกชน 3 จังหวัดใต้ และบางส่วนในจังหวัดใกล้เคียงอย่างสงขลา หลังระเบิดในสงขลาล่าสุด เราประเมินว่า เศรษฐกิจในพื้นที่จะฟื้นตัวใน 6-12 เดือน แต่เมื่อเกิดเหตุซ้ำ ต้องใช้เวลาฟื้นตัวยาวไปอีก สำนักงานช่วยเหลือเอกชนผ่านการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ปีนี้ได้รับอนุมัติวงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท เชื่อว่าเศรษฐกิจ 14 จังหวัดใต้จะโตได้ 4-5% หากสถานการณ์ไม่เลวร้ายกว่านี้
นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังษี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ไม่น่ากระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในประเทศ เพราะจุดที่ระเบิดไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ นักลงทุนในกรุงเทพฯไม่ตื่นเต้น สำหรับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ ธนาคารยังคงเป้าหมายที่ 4-5% ส่วนนายวันเสด็จ ถาวรสุข ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า กระทบการท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนเล็กน้อย เบื้องต้นนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และสิงคโปร์ยกเลิกเดินทางเข้าหาดใหญ่ ที่จัดงานตรุษจีน 10% หลังไม่มั่นใจความปลอดภัย ขณะนี้รอรายงานความเสียหายจากสำนักงาน ททท.ที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย ขณะเดียวกัน ททท.จะทำ หนังสือชี้แจงมาตรการรักษาความปลอดภัยภาครัฐส่งให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ
ขณะที่นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็งขึ้น และขอให้ชดเชยค่าเสียหายจากการก่อการร้ายแก่นักธุรกิจ ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า ททท.ชะลอแผนการจัดโครงการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศมาเลเซีย กับอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จากแผนเดิมจะนำนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปมาเลเซียด้วยเที่ยวบินจากแอร์เอเชีย มาเที่ยวต่อที่อำเภอเบตง และด่านสะเดา หาดใหญ่ ด้วยรถบัส แบบ 2 วัน 1 คืน และยังชะลอแผนการเชิญสื่อมวลชน บริษัทนำเที่ยว เดินทางลงพื้นที่ เพื่อประชาสัมพันธ์แพ็กเกจท่องเที่ยวนี้
ส่วนนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า พร้อมรับฟังข้อเรียกร้องของภาคเอกชน แต่เรื่องระเบิด คงต้อง ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ขณะที่นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้เผชิญกับความไม่สงบในประเทศ และยังไม่รู้ว่าช่วงสงกรานต์จะเกิดเหตุระเบิดอีกหรือไม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และภาพรวมเศรษฐกิจมาก แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้ยังโตที่ 4-5%
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ